Page 4 - สารสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (กรกฎาคม 2558)
P. 4

รายงานพเิ ศษ

โดย ส�ำนักประชำสัมพันธ์

โครงการจัดหารายได้สนับสนนุ สภากาชาดไทยเฉลิมพระเกยี รติ

   สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
        สยามบรมราชกมุ ารี

            ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ
                   ๒ เมษายน ๒๕๕๘

                                                                       นบั ตง้ั แตพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระบรม
                                                                       ราชโองการแตง่ ตง้ั ใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรม
                                                                       ราชกมุ ารี ดาำ รงตาำ แหนง่ อปุ นายิกาผอู้ าำ นวยการสภากาชาดไทย
                                                                       เมอ่ื วนั ท่ี ๑๓ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๐ นบั เปน็ เวลา ๓๗ ปี
                                                                       ท่ที รงงานตามภารกจิ หลกั ของสภากาชาดไทย ทรงเปน็ หลกั ชยั
                                                                       นาำ ความเจรญิ กา้ วหนา้ มาสสู่ ภากาชาดไทยเปน็ อยา่ งย่งิ ดว้ ยปจั จบุ นั
                                                                       กจิ กรรมของสภากาชาดไทยไดข้ ยายกวา้ งขน้ึ ทรงดแู ลงานดา้ น
                                                                       อนามัยและการรักษาพยาบาล การบรรเทาทกุ ข์และให้ความ
                                                                       ช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ และการบริจาคโลหิตแล้ว
                                                                       งานของสภากาชาดไทยยงั ได้ขยายบทบาทให้ความช่วยเหลือ
                                                                       แก่ผู้ประสบเคราะห์กรรมและภัยพิบัติในต่างประเทศอีกด้วย
       สภากาชาดไทยเป็นองค์กรสาธารณกุศลระดับชาติ                        ดังพระราชดาำ รัสของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรม
เรม่ิ ตน้ จาก “สภาอุณาโลมแดงแหง่ ชาตสิ ยาม” ท่จี ดั ต้งั ข้นึ เพ่อื    ราชกมุ ารี ทว่ี า่ “ภาระหนา้ ท่ขี องกาชาดในการบรรเทาสาธารณภยั
ปฏิบตั ิหน้าทีใ่ ห้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ทหารและ                ได้ก้าวเลยขอบเขตของเชื้อชาติ ศาสนา และการเมืองระหว่าง
ผู้ทไี่ ด้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ เนือ่ งจากกรณพี ิพาทเขตแดน             ประเทศ อยา่ งไรกด็ ี ประเทศใดประเทศหน่งึ ไมส่ ามารถกระทา�
ฝง่ั ซา้ ยของแมน่ าำ้ โขงระหวา่ งไทยกบั ฝร่งั เศสเม่ือพ.ศ.๒๔๓๖และซ่งึ  ให้ภาระหน้าทดี่ ังกล่าวประสบความส�าเร็จได้โดยล�าพัง แต่จะ
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงรบั ไวใ้ นพระบรม         เปน็ ไปไดก้ โ็ ดยประชาคมของบรรดาประเทศตา่ ง ๆ...”๑
ราชูปถัมภ์ ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๑ มกี ารตราพระราชบัญญัติ
วา่ ดว้ ยสภากาชาดไทย ขยายบทบาทใหเ้ ปน็ สากลมากขน้ึ มีหนา้ ท่ี
ให้ความช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ป่วยไข้และบาดเจ็บทงั้
ในยามสงครามและยามสงบ รวมทัง้ ปฏิบัติการบรรเทาทกุ ข์
เมอ่ื เกดิ สาธารณภัยท้งั ที่เปน็ ภัยธรรมชาตแิ ละภยั ท่ีเกดิ จากการ
กระทำาของมนษุ ย์ โดยไม่เลอื กเชื้อชาติ ศาสนา หรือความ
คิดเห็นทางการเมอื งของผู้ประสบภัย แต่ยดึ หลกั มนษุ ยธรรม
เป็นที่ตง้ั หลงั จากน้นั จึงได้เขา้ เป็นสมาชกิ ของ “กาชาดสากล”
ในวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ และเปน็ สมาชิกสหพันธ์
สภากาชาดและสภาเส้ียววงเดอื นแดงระหวา่ งประเทศ เม่ือวนั ท่ี
๘ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๔

๑ (ทางสายไมตรี = Friendship route : ประมวลเอกสารจดหมายเหตุ การเสดจ็ ฯ เยอื นต่างประเทศของสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม
ราชกุมารี พ.ศ. ๒๕๑๖ - ๒๕๓๔, ๒๕๓๗ หน้า ๒๑๙

 2 สาTรhสeภาNนaิตtiบิoัญnaญl Lัตeิแgหiง่sชlaาtตivิ e Assembly Newsletter
   1   2   3   4   5   6   7   8   9