Page 13 - สารสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (มีนาคม 2558)
P. 13

เหตุผล

โดยทบ่ี ทบญั ญตั ขิ องประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความแพง่ ของศาลอุทธรณไ์ ม่ถกู ตอ้ ง ไม่วา่ ทัง้ หมดหรือบางสว่ น ศาลฎีกา

ในส่วนการฎีกา ไม่สามารถกล่ันกรองคดีท่ีไม่เป็นสาระอันควร จะมคี ำ� วนิ จิ ฉยั ในปญั หาขอ้ กฎหมายนนั้ และยกคำ� พพิ ากษาหรอื

แกก่ ารวนิ จิ ฉยั ของศาลฎกี าไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพเพยี งพอ ทำ� ให้ คำ� สงั่ ของศาลอทุ ธรณห์ รอื ศาลชน้ั ตน้ แลว้ มคี ำ� สง่ั ใหศ้ าลอทุ ธรณ์

การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาเกิดความล่าช้า ส่งผล หรือศาลช้ันต้น แล้วแต่กรณี ท�ำค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ังใหม่

กระทบต่อความเช่ือม่ันและความศรัทธาท่ีมีต่อระบบศาล ภายใตก้ รอบคำ� วนิ จิ ฉยั ของศาลฎกี ากไ็ ด้ และกำ� หนดใหใ้ นกรณี

ยุติธรรม ดังน้ัน เพ่ือให้การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกา ที่ไม่มีข้อก�ำหนดของประธานศาลฎีกา ตามมาตรา ๒๕๐

เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความเป็นธรรมแก่บุคคล ก�ำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้น�ำบทบัญญัติในลักษณะ ๑ ว่าด้วย

ทเ่ี กยี่ วขอ้ งทกุ ฝา่ ยไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ และรวดเรว็ ขนึ้ สมควรกำ� หนด อุทธรณ์มาใช้บังคับโดยอนุโลม (ยกเลิกความในมาตรา ๒๕๑

ใหศ้ าลฎกี ามอี ำ� นาจพจิ ารณาวา่ คดที ไ่ี ดย้ นื่ ฎกี าใดสมควรอนญุ าต และมาตรา ๒๕๒)

ให้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา จึงจ�ำเป็นต้องตราพระราช 	 ๗.	ก�ำหนดให้บรรดาคดที ไ่ี ด้ยนื่ ฟ้องไวก้ ่อนวนั ที่พระราช

บัญญตั นิ ้ี                                                 บัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้บังคับตามกฎหมายซ่ึงใช้อยู่ก่อนวันที่

ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี พระราชบญั ญตั ินีใ้ ชบ้ ังคบั จนกวา่ คดีนั้นจะถึงที่สดุ
พิจารณาความแพ่ง (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... มเี น้อื หารวมจำ� นวน หากทา่ นผใู้ ดประสงคร์ บั ทราบขอ้ มลู เกยี่ วกบั พระราชบญั ญตั ิ
๑๐ มาตรา ซงึ่ มสี าระสำ� คัญ ดังน้ี
                                                             ฉบับนี้เพิ่มเติม กรุณาติดตามได้ท่ี www.senate.go.th หรือ
	 ๑.	ก�ำหนดยกเลิกความในมาตรา ๒๒๓ ทวิ เกี่ยวกับ สอบถามได้ท่ีศูนย์บริการข้อมูลด้านกฎหมายวุฒิสภาและ
การอทุ ธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎกี า หน่วยประสานงานราชการวุฒิสภา อาคารรัฐสภา ๒ ช้ัน ๑
  	 ๒.	ก�ำหนดให้ค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ังของศาลอุทธรณ์ หมายเลขโทรศพั ท์ ๐ ๒๒๔๔ ๑๕๖๕

เป็นทส่ี ุด (เพิม่ ความเป็นมาตรา ๒๔๔/๑)

	 ๓.	ก�ำหนดหลักเกณฑ์การฎีกาค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ัง

ของศาลอุทธรณ์ให้กระท�ำได้เม่ือได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

(ยกเลกิ ความในมาตรา ๒๔๗)

	 ๔.	ก�ำหนดองค์คณะผู้พิจารณาค�ำร้องขออนุญาตฎีกา

และก�ำหนดเหตุท่ีศาลฎีกาสมควรอนุญาตให้ฎีกาได้ (ยกเลิก

ความในมาตรา ๒๔๘ และมาตรา ๒๔๙)

	 ๕.	ก�ำหนดให้ประธานศาลฎีกามีอ�ำนาจออกข้อก�ำหนด

ของประธานศาลฎกี า โดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากทป่ี ระชมุ ใหญ่

ศาลฎกี าในการกำ� หนดกระบวนการในการฎกี า (เพิ่มความเป็น

มาตรา ๒๕๐)

	 ๖.	ก�ำหนดกรณีคดีที่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาท่ีมีแต่เฉพาะ

ปัญหาข้อกฎหมาย หากศาลฎีกาเห็นว่าค�ำพิพากษาหรือค�ำส่ัง

                                                                                      มMนี าAคRมC๒H๕20๕1๘5  13
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18