Page 12 - สารสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (กรกฎาคม 2558)
P. 12

ด้านการพิจารณากฎหมาย

โดย สำนักประชำสมั พันธ์

ภายหลงั จากคณะกรรมาธิการยกร่างรฐั ธรรมนญู ไดย้ กรา่ ง “การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูป หรือกฎหมาย พระมหากษัตริย์จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
แห่งชาติพิจารณา ได้มีกระแสเรียกร้องจากประชาชนจำานวน ใหก้ ระทาำ ตอ่ พระรชั ทายาทซ่งึ บรรลนุ ติ ภิ าวะแลว้ หรอื ตอ่ ผแู้ ทน
มาก โดยเหน็ ควรใหม้ กี ารออกเสยี งประชามตใิ นรา่ งรฐั ธรรมนญู พระองคก์ ็ได้”
ฉบบั ใหม่ว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งการ                            ๓. ระยะเวลาด�าเนินการของคณะกรรมาธิการยกร่าง
ดำาเนนิ การดังกล่าวจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่ง                       รัฐธรรมนญู
ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพือ่
กำาหนดให้มีการออกเสยี งประชามติในร่างรัฐธรรมนูญฉบับ                              ๓.๑ กำาหนดให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
ดงั กลา่ วรวมถงึ แกไ้ ขเพ่มิ เตมิ บทบญั ญตั อิ ่ืนๆใหม้ คี วามสอดคลอ้ ง     พจิ ารณาคำาขอแก้ไขเพิ่มเติมใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน ๖๐ วนั นับแต่
เหมาะสม จึงเป็นทีม่ าของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย                        วันทค่ี รบกาำ หนดย่นื คาำ ขอแก้ไขเพิม่ เติม ทง้ั น้ี คณะกรรมาธิการ
(ฉบับชั่วคราว) พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ แก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ ๑)                 ยกร่างรัฐธรรมนูญอาจแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญได้ตามที่
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘ สาร สนช. ฉบบั น้ี จงึ ขอนาำ เสนอความเปน็ มา               เหน็ สมควร ในกรณีคาำ ขอแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ มปี ระเดน็ ท่ีตอ้ งพจิ ารณา
และสาระสาำ คญั ของร่างรฐั ธรรมนูญ โดยสงั เขป ดังนี้                         เป็นจำานวนมากหรืออาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างของร่าง
                                                                            รัฐธรรมนูญและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่า
ความเป็นมา                                                                  ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในกำาหนดเวลาทีก่ ำาหนด
คณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ประชุม คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะมมี ติให้ขยายระยะเวลา
ปรึกษาลงมติให้เสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พิจารณาคาำ ขอแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ออกไปได้อกี ไมเ่ กิน ๓๐ วันนบั แต่
(ฉบบั ชว่ั คราว) พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ ..) วนั ท่ีพน้ กาำ หนดเวลาพจิ ารณาคาำ ขอแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ดงั กลา่ ว โดยให้
พทุ ธศกั ราช .... ต่อสภานติ ิบัญญัติแห่งชาตเิ ปน็ เรื่องดว่ น และ แจ้งมติขยายเวลาพร้อมเหตุผลให้สภาปฏิรูปแห่งชาติทราบ
ได้เสนอต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมือ่ วันที่ ๑๐ กอ่ นครบกาำ หนดด้วย
มถิ ุนายน ๒๕๕๘ เพือ่ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา                            ๓.๒ เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้แก้ไข
ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย                                 เพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วให้เสนอร่างรัฐธรรมนูญต่อ
(ฉบับชวั่ คราว) พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๗
                                                                            สภาปฏริ ปู แหง่ ชาติแลว้ ใหส้ ภาปฏริ ปู แหง่ ชาตริ อไว้๑๕วนั นบั แต่
หลกั การ                                                                    วนั ท่ไี ดร้ บั รา่ งรฐั ธรรมนญู จากคณะกรรมาธกิ ารยกรา่ งรฐั ธรรมนญู
แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อพ้นกำาหนดแล้วให้สภาปฏิรูปแห่งชาติประชุมเพือ่ ลงมติให้
(ฉบับชัว่ คราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อกำาหนดวิธีการจัดทำา ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญภายใน ๓๐ วัน
ประชามติร่างรฐั ธรรมนูญและบทบญั ญัตอิ นื่ ให้เหมาะสมย่งิ ข้นึ นับแตว่ ันทคี่ รบกาำ หนด
                                                                            ๓.๓ ภายใน ๓๐ วนั นบั แตว่ นั ท่สี ภาปฏริ ปู แหง่ ชาตแิ ละ
เหตผุ ล
โดยทีเ่ ป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่ง คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญสิน้ สุดลง หรือนับแต่วันที่
ราชอาณาจักรไทย (ฉบับชัว่ คราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพือ่ ร่างรัฐธรรมนูญเป็นอันตกไป ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
กำาหนดวิธีการจัดทำาประชามติร่างรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติ แตง่ ตง้ั คณะกรรมการรา่ งรฐั ธรรมนญู ข้นึ คณะหน่งึ ประกอบดว้ ย
อืน่ ใหเ้ หมาะสมย่ิงขนึ้ จงึ จำาเป็นตอ้ งตรารัฐธรรมนญู นี้                  ประธานกรรมการคนหนึ่ง และกรรมการอืน่ อีกไม่เกนิ ๒๐ คน
                                                                            เพือ่ ทำาหน้าทีร่ ่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน ๑๘๐ วัน
สาระส�าคญั ของรา่ งรัฐธรรมนญู                                               นบั แต่วนั ท่ไี ดร้ ับการแต่งต้ัง
  ๑. แก้ไขเพมิ่ เติมลักษณะต้องห้ามของสมาชิกสภา
นติ บิ ัญญัตแิ ห่งชาติ ในมาตรา ๘ (๔) จากความว่า “เคยถูก ๔. การออกเสียงประชามติ
เพิกถอนสทิ ธิเลือกตัง้ ” เปน็ “ไมอ่ ยใู่ นระหว่างถูกเพิกถอนสทิ ธิ           ๔.๑ เมอื่ สภาปฏิรูปแห่งชาติมมี ติเห็นชอบด้วยกับร่าง
เลือกตัง้ ”                                                                 รฐั ธรรมนญู ใหแ้ จง้ คณะรฐั มนตรที ราบ และใหค้ ณะรฐั มนตรแี จง้
๒. ก�าหนดให้เพิม่ เตมิ กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณ โดย ใหค้ ณะกรรมการการเลือกตงั้ ทราบโดยเร็ว เพ่อื ดาำ เนินการใหม้ ี
กำาหนดให้เพิ่มความต่อไปนีเ้ ป็นวรรคหก ของมาตรา ๑๙ การออกเสียงประชามติตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลา

10 สาTรhสeภาNนaิตtiบิoัญnaญl Lตั eแิ gหiง่sชlaาtตivิ e Assembly Newsletter
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17