Page 11 - สารสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (กรกฎาคม 2558)
P. 11

เส่ียงภยั สงู ท่จี ะเกดิ นา้ำ ทว่ มขนาดใหญใ่ นอนาคต อีกท้ังเปน็ ภาระ ทรพั ยากรนาำ้ และการเกษตร กลา่ ววา่ การบรหิ ารจดั การนาำ้ ควร
ของสังคมที่ต้องใชห้ นเี้ งินกู้จำานวนมหาศาลอยา่ งน้อย ๒๕ ปี มแี ผนพฒั นาระบบขอ้ มลู สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ โดยสนบั สนนุ ๓
• ๙.๕ แสนล้านบาท และอนาคตการบรหิ ารจัดการน�้าของ เร่อื ง ไดแ้ ก่ ๑. ระบบการบรหิ ารจดั การนา้ำ ในภาวะปกติ ๒.ระบบ
ประเทศไทย                     เทคโนโลยีเพอ่ื รองรับการพัฒนา อนรุ กั ษ์ และการซ่อมบำารงุ ๓.
รศ. ดร.อภชิ าติ อนกุ ลู อา� ไพ นายกสมาคมทรพั ยากรนาำ้ แหง่ การบริหารโครงการทเี่ กีย่ วข้องกับโครงสร้างเรื่องน้ำาซึง่ มีอยู่ทัว่
ประเทศไทย กล่าวว่า แผนยุทธศาสตรบ์ ริหารจัดการทรัพยากร ประเทศควรใชร้ ปู แบบการบรหิ ารจดั การสมยั ใหม่ ซ่งึ ท้งั ๓ เรอ่ื ง
นา้ำ พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๙ กาำ หนดวสิ ัยทัศนไ์ วว้ า่ “ทุกหม่บู า้ น จะเกิดขึ้นได้ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทีป่ ระกอบด้วยหน่วยงาน
มีนาำ้ สะอาดอปุ โภคบรโิ ภค นา้ำ เพอ่ื การผลติ ม่ันคง ความเสยี หาย ต่าง ๆ เชน่ กรมอตุ ุนยิ มวิทยา สาำ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ รวมท้ังมี
จากอุทกภยั ลดนอ้ ยลง คณุ ภาพนาำ้ อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน บรหิ าร ดชั นชี ว้ี ดั และเพ่อื สรา้ งคลงั ขอ้ มูลนาำ้ สาำ หรบั การวเิ คราะหผ์ งั เมอื ง
จัดการนำ้าอย่างยัง่ ยนื ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุล โดยการมี เพ่อื ประกอบการตดั สนิ ใจ นอกจากน้ี ยังมขี อ้ มูลทางสงั คมทต่ี อ้ ง
ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน” ประกอบดว้ ย ๑. มั่นคงและสมดุล ทาำ การสาำ รวจวา่ ชมุ ชนใดขาดแคลนนาำ้ ในการอปุ โภคบรโิ ภคบา้ ง
๒. นาำ้ สะอาดอปุ โภคบรโิ ภคทกุ หมบู่ า้ นและนาำ้ เพอ่ื อตุ สาหกรรม และเมือ่ มีการลงทุนในเรื่องดังกล่าวแล้ว ประชาชนมีคุณภาพ
๓. นำ้าเพือ่ การผลิตด้านเกษตร ๔. เสียหายจากอุทกภัยลดลง ชวี ติ ท่ดี ขี น้ึ อยา่ งไร สาำ หรบั ในเร่อื งเศรษฐกจิ โดยเฉพาะการลงทนุ
๕. คณุ ภาพนาำ้ อย่ใู นเกณฑ์ ๖. บริหารจดั การน้าำ ย่ังยนื โดยการมี บริเวณชายแดนทีเ่ รียกว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษ การประปาจะ
สว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น โดยมแี นวทางในการปฏริ ปู เพ่อื ใหบ้ รรลุ ต้องมกี ารจดั เตรียมระบบเพ่ือรองรบั การผลิตนำ้าอุปโภคบรโิ ภค
วสิ ัยทัศนท์ ่กี าำ หนดไวใ้ นแผนยทุ ธศาสตรบ์ รหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ำ ในมากขึน้ เปน็ ๒ เทา่ ในระยะเวลา ๒ ปี ในพ้นื ท่ดี ังกลา่ วด้วย
มีดังนี้ ๑. มนั่ คงและสมดุล จะต้องจัดสรรการใช้น้ำาให้แก่ภาค ซึ่งทัง้ หมดจะต้องมีการวางแผนการดำาเนินงานเป็นระยะใน
เกษตร ภาคอตุ สาหกรรม และภาคอุปโภคบรโิ ภคอย่างชัดเจน แต่ละปีอย่างชัดเจน
ต้องเข้าใจเรือ่ งนำ้าเพือ่ รักษาระบบนเิ วศน์ มกี ลยทุ ธ์ในการเพิ่ม รศ. ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์
ประสิทธิภาพการใช้น้ำา และควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั กลา่ ววา่ การใชท้ ่ีดนิ มกี ารเปล่ยี นแปลง
ประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในการปลูกป่า ๒. น้ำาสะอาดอุปโภค ไปอย่างรวดเร็วประกอบกับขณะนีย้ ังไม่มีกฎหมายเกีย่ วกับ
บริโภคทกุ หมูบ่ า้ นและน้าำ เพอ่ื อุตสาหกรรม จะต้องมีหนว่ ยงาน น้าำ ทาำ ใหก้ าำ หนดยุทธศาสตร์ระยะยาวไม่ได้ อีกทั้งมหี นว่ ยงาน
จดั หานาำ้ ดบิ และมีทอ่ สง่ นา้ำ ไปยงั แตล่ ะหมบู่ า้ น มีการแกก้ ฎหมาย ทเี่ กี่ยวข้องจำานวนมาก ซึง่ แต่ละหน่วยงานมมี าตรฐานการ
เรือ่ งการถ่ายโอนภารกิจการจัดหาน้ำาสะอาดไปให้องค์กร ทำางานทแี่ ตกต่างกัน ทงั้ นี้ ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนจากภาค
ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และตอ้ งปรบั โครงสรา้ งคา่ นา้ำ โดยใครใชน้ าำ้ เกษตรเป็นภาคอตุ สาหกรรมและภาคบริการ ความต้องการใช้
มากต้องจ่ายมากเพือ่ ให้เกิดการประหยดั นำ้า ๓. น้ำาเพือ่ การ นำ้าจะมมี ากขึ้นในเขตเมือง ดังนัน้ การบริหารจัดการน้ำาต้องมี
ผลิตดา้ นเกษตร จะต้องทำาการศึกษาเร่ือง Virtual Water หรอื ความสอดคลอ้ งกบั การพฒั นาประเทศ รวมท้ังตอ้ งทาำ ใหช้ อ่ งวา่ ง
การพิจารณาถึงปริมาณนำ้าที่จำาเป็นสำาหรับการปลกู พืชแต่ละ ระหว่างหน่วยงานทีม่ ีอยู่ขณะนี้เชือ่ มโยงซึง่ กันและกันและ
ชนดิ ควรปลูกเฉพาะข้าวทีส่ ามารถส่งออกไปขายได้ ไม่ควร วางแผนการทาำ งานแบบมสี ว่ นรว่ ม
ขุดพื้นทชี่ ุ่มน้ำาให้เป็นหนองนำ้าหรือสระน้ำา ควรศึกษาการนำา ปัญหาเรือ่ งการบริหารจัดการน้ำายังคงเป็นเรื่องทีค่ นไทย
นา้ำ บาดาลข้นึ มาใช้ เปล่ยี นปรชั ญาจากประชาสงเคราะหเ์ ปน็ การ เฝ้าติดตามการทำางานของทกุ ภาคส่วนอย่างใกล้ชิดและอยาก
ให้เกษตรกรอยู่ได้ด้วยตัวเอง ๔. เสยี หายจากอทุ กภัยลดลง เหน็ แนวทางดำาเนินการท่ีเป็นรูปธรรมและย่งั ยนื ซ่งึ สง่ิ สำาคัญที่
โดยการบริหารความเสยี่ งของเขือ่ นและอ่างเก็บนำ้าต้องชัดเจน สามารถปฏิบัติได้ทันที คือ คนไทยทกุ คนต้องมจี ิตสาำ นกึ ในการ
เละเบด็ เสร็จ                 ใช้น้ำาอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ผลการสัมมนาในครัง้ นี้
• การดา� เนนิ งานของส่วนราชการทีเ่ กีย่ วข้องภายใต้แผน คณะกรรมการวิจัยและพัฒนาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะ
ยุทธศาสตรบ์ ริหารจดั การนา้�  รวบรวมเป็นข้อมูลนำาเสนอต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำานวยการสถาบนั สารสนเทศ เพ่อื ดำาเนนิ การตามอำานาจหน้าท่ีต่อไป

                                                                                       9กรกฎาคม J๒u๕ly๕2๘015
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16